หากคุณกำลังหากระดานเทรดคริปโตต่างประเทศ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกอันไหนดีเพราะมีมากมายเต็มไปหมด บทความนี้จะให้คำตอบกับคุณครับ
ในการเทรดคริปโต นอกจากจะมีกระดานเทรดของไทยที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. แล้ว ก็ยังมีกระดานเทรดคริปโตจากต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งกระดานเทรดต่างประเทศจะมีฟังก์ชันหลายอย่างที่ช่วยเพิ่มผลกำไรจากการเทรด ที่นักลงทุนคริปโตไม่ควรพลาด
ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า มีเว็บเทรดคริปโตอะไรบ้างที่มีจำนวนผู้ใช้งานติดระดับโลกกันครับ
จัดอันดับท็อป 10 กระดานเทรดคริปโตต่างประเทศ
ชื่อ | ค่าธรรมเนียม Maker/Taker |
รองรับภาษาไทย | ความสะดวกการใช้งาน | ชนิดคริปโต |
---|---|---|---|---|
Bybit | 0.01%/0.06% | รองรับ | มีแอพพลิเคชั่น | 320+ |
Binance | 0.02%/0.04% | ไม่รองรับ | มีแอพพลิเคชั่น | 370 |
MEXC | 0.2%/0.06% | รองรับ | มีแอพพลิเคชั่น | 1,523+ |
coinbase | 0.5%/0.5% | รองรับ | มีแอพพลิเคชั่น | 170 |
FXGT | จุดแลกเปลี่ยน | รองรับ | ไม่มีแอพพลิเคชั่น | 130+ |
กระดานเทรดอันดับ 1:Bybit
Bybit เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตยอดนิยม ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม 2018 โดยมีผู้ใช้งานจากทั่วโลกกว่า 130 ประเทศ
โดยจุดเด่นของ Bybit คือ ทั้งเว็บไซต์และแอพรองรับภาษาไทย และมีการบริการลูกค้าเป็นภาษาไทยตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน ดังนั้นถึงแม้ว่าจะไม่แม่นอังกฤษ ก็สามารถใช้ Bybit ได้อย่างสบายใจครับ
นอกจากนี้ การเปิดบัญชีก็ทำได้ง่าย ๆ เพียง 3 ขั้นตอน จึงเหมาะกับคนที่อยากจะเปิดบัญชีและเริ่มเทรดเลยทันทีครับ
- รองรับการใช้งานภาษาไทย
- เซิร์ฟเวอร์มีความเสถียร
- ฟังก์ชั่นการใช้งานค่อนข้างมาก
- โอนเงินได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอคิวนาน
- คนที่ต้องการใช้งานกระดานเทรดเป็นภาษาไทย
- คนที่ต้องการค่าธรรมเนียมต่ำ ๆ เวลาทำธุรกรรม
- คนที่ต้องการกระดานเทรดที่ความปลอดภัยสูง
- คนที่ต้องการการใช้งานที่สะดวก เว็บไม่กระตุก
- คนที่ต้องการความรวดเร็วในการทำธุรกรรม

กระดานเทรดอันดับ 2:Binance
Binance เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่ก่อตั้งในฮ่องกงในปี 2017
ลักษณะเด่น Binance คือ มีสกุลเงินดิจิทัลที่หลากหลาย เลเวอเรจสูง และค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ
โดยสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถเทรดได้มีมากกว่า 300 ชนิด เลเวอเรจสูงสุดอยู่ที่ 125 เท่า และค่าธรรมเนียมต่ำถึง 0.1%
ปัจจุบันมีผู้ใช้งานจากหลากหลายประเทศ และเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียว
- มีชนิดเหรียญจำนวนมาก โดยมีกว่า 350 ชนิด
- เลเวอเรจสูงสุดอยู่ที่ 125 เท่า
- ปริมาณซื้อขายสูงที่สุดในโลก
- มีบริการให้เลือกหลากหลาย เช่น NFT และ IEO
- คนที่อ่านภาษาอังกฤษคล่อง สามารถใช้งานภาษาอังกฤษได้
- คนที่ต้องการลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
- คนที่ไม่ได้ใช้ USDT และ USDC
- คนที่ต้องการฟังก์ชันและการบริการที่หลากหลาย

กระดานเทรดอันดับ 3:MEXC
MEXC (MXC) ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 และเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในต่างประเทศ มีผู้ใช้งานเกิน 6 ล้านคน จาก 200 กว่าประเทศทั่วโลก
นอกจากจำนวนชนิดเหรียญที่มีให้อย่างหลากหลายแล้ว มีการจดทะเบียนเหรียญชนิดใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มี Altcoin และเหรียญขยะหลายชนิดที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้ใน Binance ด้วย
กระดานเทรดนี้รองรับภาษาไทย และสามารถซื้อขายด้วยเงินดิจิทัลมากมายด้วยเลเวอเรจสูงถึง 125 เท่า
- มีชนิดเหรียญจำนวนมาก โดยมีมากกว่า 1,500 ชนิด
- เลเวอเรจสูงสุดที่ 125 เท่า
- มี Token เป็นของตัวเอง
- สามารถเข้าร่วม IEO ได้
- รองรับการใช้งานภาษาไทย
- คนที่ต้องการใช้กระดานเทรดในทุกที่ทุกเวลา
- คนที่ต้องการเทรดเหรียญหลากหลายประเภท
- คนที่ต้องการความสะดวกในการเข้าร่วม IEO
รีวิว MEXC Global: ข้อดีและข้อเสียของ Cryptocurrency Exchange ระดับโลก
กระดานเทรดอันดับ 4:Coinbase
Coinbase ก่อตั้งขึ้นในซานฟรานซิสโกในปี 2012 ซึ่งในตอนนี้เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
โดย Coinbase เปิดบริการซื้อขายคริปโตใน 32 ประเทศ (ส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐ) และมี Digital Wallet ที่สามารถใช้ได้ใน 190 ประเทศด้วย
จากข้อมูลเดือนเมษายน 2021 Coinbase มีผู้ใช้จำนวนมากถึง 6.1 ล้านคน 56 ล้านบัญชีเลยทีเดียว
- ความน่าเชื่อถือสูงเพราะมีการจดทะเบียนบน NASDAQ
- มีการรับประกันสกุลเงินดิจิทัล
- คุ้มครองเงินลงทุนโดยประกัน FDIC สูงสุดที่ 250,000 ดอลล่าร์
- รองรับการใช้งานภาษาไทย
- คนที่ต้องการเทรดในทุกที่ทุกเวลา
- คนที่ต้องการความปลอดภัยในการเทรด
- คนที่ชอบการลงทุนโดยมีการประกันรองรับ
รีวิว Coinbase: ทำไมคุณควรใช้ Exchange นี้ในการซื้อขาย Cryptocurrency
กระดานเทรดอันดับ 5:FXGT
FXGT เป็นโบรกเกอร์ที่เปิดแพลตฟอร์มการเทรดแบบผสมผสาน ที่มีคริปโตและ Forex อยู่ด้วยกัน
ดังนั้นจึงสามารถเลือกลงทุนได้หลากหลายรูปแบบจากเว็บนี้เว็บเดียว นอกจากนี้ยังสามารถซื้อขายด้วยเลเวอเรจสูงถึง 1,000 เท่าได้อีกด้วย
FXGT จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อขายคริปโตด้วยเลเวอเรจสูง ๆ
- สามารถเล่นทั้งคริปโตและ Forex ได้บนแพลตฟอร์มเดียวกัน
- สไตล์ในการเทรดค่อนข้างหลากหลาย
- เลเวอเรจสูงสุด 1000 เท่า
- รองรับการใช้งานภาษาไทย
- คนที่ต้องการการเทรดในสไตล์ของตัวเอง
- คนที่ต้องการเทรดด้วยเลเวอเรจสูง ๆ
- คนที่ต้องการใช้งานเป็นภาษาไทย
กระดานเทรดอันดับ 6:Kucoin
KuCoin เป็นกระดานเทรดคริบโต ซึ่งจัดตั้งขึ้นที่ฮ่องกงในปี 2017
กระดานเทรดนี้มีให้บริการในกว่า 200 ประเทศ และมีผู้ใช้งานมากกว่า 18 ล้านคน
KuCoin มีชื่อเสียงเรื่องการจัดการ Altcoins ที่มีมากมายกว่า 600 ชนิด เช่น Ethereum และ Ripple รวมถึง Bitcoin
นอกจากนี้ยังมีสกุลเงิน “KCS” ที่ออกโดย KuCoin เอง แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่หลากหลายรวมถึง “KCS” ของ KuCoin ด้วย
- มี Token เป็นของตนเอง
- รองรับการใช้งานภาษาไทย
- เลเวอเรจและค่าธรรมเนียมสูง
- คนที่ต้องการ Token เฉพาะของ KuCoin
- คนที่ต้องการใช้งานเว็บเป็นภาษาไทย
- คนที่ต้องการเทรดด้วยเลเวอเรจสูง
วิธีสมัคร KuCoin | อธิบายขั้นตอนการเปิดบัญชีและยืนยันตัวตน
[รีวิว] KuCoin คืออะไร ใช้เทรดได้ดีไหม? สรุปข้อดี ข้อเสีย และความปลอดภัย
กระดานเทรดอันดับ 7:OKX
OKX เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017
แต่ก่อนแพลตฟอร์มนี้ชื่อว่า OKEX แต่ได้เปลี่ยนเป็นชื่อปัจจุบันหลังจากที่ขยายธุรกิจ
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 OKX เติบโตถึงจุดที่กล่าวได้ว่าเป็น 1 ใน 3 แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตขาใหญ่ในประเทศจีน รองรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 165 ชนิด
นอกจากนี้ OKX ยังออก “OKB” ซึ่งเป็น Exchange Token และมีระบบที่ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมลดลงตามจำนวน “OKB” ที่ถือและซื้อขายด้วย
- มีผู้ใช้งานจำนวนมากทั่วโลก
- มีวิธีรับผลกำไรนอกเหนือจากการซื้อขาย
- มีความคล่องตัวการใช้งานสูง
- รองรับการใช้งานภาษาไทย
- รองรับการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น
- คนที่ต้องการใช้กระดานเทรดในทุกที่ทุกเวลา
- คนที่ต้องการใช้งานเว็บเป็นภาษาไทย
- คนที่ต้องการความราบลื่นในการใช้งาน
กระดานเทรดอันดับ 8:Gate.io
Gate.io เป็นกระดานเทรดที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศจีน
เว็บเทรดนี้เคยได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 7 ในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำของ Coingecko จึงถือได้ว่าเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนคริปโตจำนวนมาก
Gate.io รองรับการซื้อขาย Altcoins จำนวนมาก ดังนั้นจึงแนะนำสำหรับคนที่มุ่งจะหากำไรก้อนใหญ่โดยการเทรดเหรียญขยะ
นอกจากนี้ Gate.io มีการใช้การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน การจัดการ Cold wallet และหลายสัญญาณสำหรับสกุลเงินดิจิทัลมาควบคุม ดังนั้นจึงสามารถมั่นใจในความปลอดภัยของแพลตฟอร์มนี้
- สามารถคัดลอกการเทรดของคนอื่นได้
- มี Token เป็นของตัวเอง
- สามารถทดลองเทรดโดยยังไม่ต้องลงทุนด้วยตนเอง
- รองรับการใช้งานภาษาไทย
- มีชนิดเหรียญให้เลือกมากกว่า 1,000 ชนิด
- คนที่ต้องการเทรดได้ทุกที่ทุกเวลา
- คนที่ต้องการใช้งานสะดวกโดยใช้ภาษาไทย
- คนที่ไม่ต้องการซื้อขายด้วยเลเวอเรจ
กระดานเทรดอันดับ 9:Bitget
Bitget เป็นแพลตฟอร์มเทรดที่ก่อตั้งขึ้นในหมู่เกาะเคย์แมนในปี 2018
ตอนนี้มีสาขาทั้งหมด 10 สาขาทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย และมีบริการรองรับถึง 13 ภาษา ซึ่งรวมภาษาไทยด้วย
แม้ว่า Bitget ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในประเทศไทย แต่ก็มีผู้ใช้งานจำนวนมากทั่วโลก โดยติดอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลก (ณ เดือนสิงหาคม 2022) ในจำนวนดอกเบี้ยที่สถานะคงค้างชำระใน 24 ชั่วโมง
- สามารถดูผลงานการเทรดของผู้ค้ารายอื่นและคัดลอกการซื้อขาย
- ถึงเป็นมือใหม่ก็สามารถคาดหวังผลกำไรได้
- รองรับการใช้งานภาษาไทย
- รองรับการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น
- คนที่ต้องการเทรดในทุกที่ทุกเวลา
- คนที่ต้องการใช้งานกระดานเทรดเป็นภาษาไทย
- คนที่เป็นมือใหม่ แต่คาดหวังผลกำไรในเวลาสั้น ๆ
กระดานเทรดอันดับ 10:Lbank
LBank เป็นแพลตฟอร์มเทรดที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง เริ่มกิจการในปี 2016
แม้ว่าในประเทศไทยจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่เว็บเทรดนี้ก็ติดอันดับที่ 15 ของโลก ในแง่ปริมาณการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ในอดีตเคยไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 5 เลยด้วย
LBank มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมคงที่ 0.1% ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก และจำนวนสกุลเงินที่รองรับ 105 ชนิด ซึ่งรวมถึง Bitcoin และ Ethereum
- รองรับการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น
- มีแหล่งข้อมูลด้านการเทรดสำหรับผู้เริ่มต้น
- มีเครื่องมือซื้อขายขั้นสูง
- มีความปลอดภัยสูง
- คนที่ต้องการเทรดในทุกที่ทุกเวลา
- คนที่สามารถใช้งานเว็บเป็นภาษาอังกฤษได้
- คนที่ต้องการกระดานเทรดที่มีประวัติดีอย่างต่อเนื่อง
ข้อดีของการใช้กระดานเทรดคริปโตต่างประเทศ
ทุกคนคงทราบอยู่แล้วเราสามารถเทรด Bitcoin ภายในประเทศได้ แต่หากต้องการเทรดคริปโตด้วยกระดานเทรดต่างประเทศแล้ว จะมีประโยชน์อะไรบ้าง? ไปดูกันเลยดีกว่าครับ
สามารถเทรดคริปโตที่ไม่สามารถเทรดในประเทศได้
ในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตต่างประเทศ จะมีสกุลเงินใหม่เข้าตลาดอยู่เรื่อย ๆ เนื่องจากว่ามาตรฐานเข้าตลาดไม่เข้มงวดเท่าไทย ตัวอย่างเช่น Binance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนรายใหญ่ อนุญาตให้ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 370 ประเภท การลงทุนใน Altcoins ถึงแม้ว่าจะความเสี่ยงสูง แต่ถ้าเลือกลงทุนได้ดีก็สามารถคาดหวังผลกำไรที่สูงกว่า การลงทุนในแพลตฟอร์มต่างประเทศจึงมีโอกาสสร้างผลตอบแทนมากกว่าเว็บเทรดในประเทศไทย
สามารถเทรดด้วยเลเวอเรจสูง
การเทรดเหรียญในต่างประเทศให้เลเวอเรจที่สูงกว่าในประเทศไทย ทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าแม้ว่าจะลงทุนไม่มากนัก ตัวอย่างเช่น Bybit ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนของสิงคโปร์ อนุญาตให้ใช้เลเวอเรจได้สูงถึง “100 เท่า” ของจำนวนเงินทุนของตนเอง แม้ว่าการซื้อขายด้วยเลเวอเรจจะมีความเสี่ยงสูงและอาจขาดทุนเป็นจำนวนมาก แต่ก็เป็นวิธีการลงทุนที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูงด้วยเงินลงทุนจำนวนน้อย
ข้อเสียของการใช้กระดานเทรดคริปโตต่างประเทศ
แต่แน่นอนว่า แพลตฟอร์มต่างประเทศก็ไม่ได้มีแค่ข้อดีเสมอไป ในส่วนนี้จะพูดถึงข้อเสียของแพลตฟอร์มเทรดต่างประเทศ
เว็บไซต์ไม่มีภาษาไทย
แพลตฟอร์มเทรดคริปโตต่างประเทศที่ไม่มีการรองรับภาษาไทย อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่คล่องภาษาอังกฤษ เพราะเว็บแลกเปลี่ยนที่ไม่มีการรองรับภาษาไทย จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเพื่อดำเนินการซื้อขายและสอบถามข้อมูล สำหรับคนที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษและไม่คุ้นเคยกับแพลตฟอร์มนั้นมาก่อน ก็น่าจะลำบากไม่น้อยในการเทรดแต่ละครั้ง สำหรับคนที่อยากใช้งานเป็นภาษาไทย สามารถเลือกเว็บเทรดที่มีบริการภาษาไทยให้ เช่น Bybit
อาจมี Crypto scams
ประเด็นสำคัญที่ต้องระวังเมื่อซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในแพลตฟอร์มต่างประเทศ คือความเสี่ยงของการฉ้อโกงและการแฮ็ค มีแฮกเกอร์จำนวนมากที่พยายามโจมตีเซิร์ฟเวอร์ของเว็บเหล่านี้ ทำให้ส่งผลเสียต่อการทำธุรกรรม ในปี 2016 Bitfinex ของสหรัฐอเมริกาถูกแฮ็ก ทำให้ Bitcoins มูลค่าถึง 2 หมื่นล้านบาทถูกขโมยไป หากคุณประสบเหตุการณ์ดังกล่าว อาจจะมีความเสี่ยงที่ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะรั่วไหลออกไป ดังนั้น ควรมองว่าเว็บเทรดต่างประเทศมีความปลอดภัยน้อยกว่ากระดานเทรดในประเทศไทย
คำถามที่เจอบ่อยเกี่ยวกับกระดานเทรดคริปโตต่างประเทศ
เมื่อกระดานเทรดต่างประเทศมีผู้ใช้งานมากขึ้น แน่นอนสิ่งที่มีมากขึ้นตามไปด้วยคือคำถามจากผู้ใช้ ซึ่งคำถามเหล่านั้นอาจมาจากมือใหม่หรือผู้มีประสบการณ์ก็ได้ มาดูกันดีกว่าครับว่ามีคำถามอะไรบ้าง
- ผิดไหมที่ใช้เว็บเทรดคริปโตต่างประเทศ?
- คำตอบคือ ไม่ผิด การซื้อขายเหรียญคริปโต เปรียบเสมือนการพนันแต่เป็นการพนันที่ไม่ผิดกฎหมาย
ทำไมถึงบอกว่าเสมือนการพนันครับ? เพราะการซื้อขายไม่สามารถประเมินปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อทิศทางการขึ้นลงของราคาเหรียญในระยะยาว การซื้อขายในระยะสั้นก็อาจสร้างกำไรหลายเท่าตัวหรือทำให้ขาดทุนอย่างมหาศาล
- เมื่อใช้เว็บเทรดคริปโตต่างประเทศ คิดภาษีอย่างไร?
- กรมสรรพากร ให้ข้อมูลว่าการเทรดคริปโต “ใน-ต่างประเทศ” ที่มีกำไรต้องเสียภาษี โดยจะหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% นอกจากนั้นเงินลงทุนที่อยู่ในวอลเล็ตก็นับเป็น “เงินได้” แม้จะยังไม่ได้ถอนออกมา
จัดอันดับกระดานเทรดคริปโตสรุป
- แพลตฟอร์มเทรดคริปโตต่างประเทศที่แนะนำ 10 อันดับ
- จุดเด่น ค่าธรรมเนียม และจำนวนชนิดสกุลเงินที่รองรับในแต่ละแพลตฟอร์ม
- ข้อดี ข้อเสีย และคำถามที่พบบ่อยเกียวกับการใช้กระดานเทรดคริปโตต่างประเทศ
เว็บเทรดคริปโตต่างประเทศมีความน่าสนใจ เพราะมีเลเวอเรจสูงและรองรับสกุลเงินดิจิทัลมากมายหลายชนิด
สำหรับมือใหม่ที่อยากลองใช้เว็บเทรดคริปโตต่างประเทศ แนะนำเว็บที่มีการรองรับภาษาไทยด้วย เช่น Bybit เป็นต้นครับ
แม้ว่าเมื่อจะทำการซื้อขายจะต้องมีการศึกษาความเสี่ยงอย่างละเอียด แต่ความเป็นไปได้ในการทำกำไรนั้นมากกว่าแพลตฟอร์มในประเทศไทย จึงแนะนำให้หมู่นักลงทุนคริปโต ลองศึกษาจุดเด่นของแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนให้มากขึ้นนะครับ!