แพลตฟอร์มเทรดเหรียญคริปโตฯ Binance ไม่ต่างอะไรกับเว็บไซต์ธนาคาร เพราะให้บริการทางด้านการเงิน ระบบความปลอดภัยจึงต้องสูง และเข้มงวด มิเช่นนั้นมิจฉาชีพแฮ็กดูดเงินออกไปได้เป็นว่าเล่น ซึ่งระบบรักษาความปลอดภัยก็มีหลายรูปแบบ ทั้งรหัสผ่าน และการยืนยันตัวตน การยืนยันตัวตนนั้นหลายแพลตฟอร์มใช้กัน ซึ่งผู้ใช้บางท่านอาจจะมองว่ายุ่งยาก สมัครไม่สะดวก จริง ๆ แล้ว วิธียืนยันตัวตน Binance เป็นอะไรที่ง่ายมาก และเมื่ออ่านบทความนี้ จะพบว่าง่ายจริง ๆ อีกทั้งปลอดภัยหายห่วงด้วย
หากยังไม่ได้ลงทะเบียนบัญชี ให้ ดู 「วิธีเปิดบัญชีกับ Binance」
โดยการยืนยันตัวตนจะแบ่งเป็น 2 ส่วนสำคัญ
- ยืนยันตัวตน Binance ตอนสมัคร เมื่อเราสมัครใช้งานไบแนนซ์ ระบบจะบังคับให้ยืนยันตัวตน ด้วยการกรอกชื่อจริง นามสกุลจริง ที่อยู่ ภาพบัตรประชาชน และถ่ายภาพผู้ใช้ เพื่อยืนยันว่าคนที่สมัครใช้งานมีตัวตนจริง
- ยืนยันตัวตน 2 ขั้น ส่วนนี้เป็นการยืนยันขั้นที่ 2 เพื่อคอนเฟิร์มว่า ธุรกรรมต่าง ๆ ทั้งฝาก ถอน ซื้อ ขาย เป็นเราจริง ๆ ซึ่งการยืนยันตัวตนแบบนี้ เป็นการส่งรหัสมาทาง sms หรืออีเมล เป็นต้น
ความสำคัญของการยืนยันตัวตน Binance
หัวใจหลักของการ ยืนยันตัวตน Binance นั้น คือ รักษาความปลอดภัยของลูกค้า เนื่องจากมีมิจฉาชีพมากหน้าหลายตาจ้องจะแฮ็กข้อมูลเพื่อลักทรัพย์ดิจิตัลไป การยืนยันตัวตนจึงเป็นสิ่งสำคัญ กล่าวง่าย ๆ คือ การยืนยันตัวตนนั้น เพื่อพิสูจน์ว่าคนที่ทำธุรกรรมเป็นคุณจริง ๆ ซึ่งใจความสำคัญสามารถแจกแจงได้ดังนี้
ทำไมต้องยืนยันตัวตน
ประการแรกของการยืนยันตัวตนไบแนนซ์ เพื่อยืนยันว่าผู้ที่สมัครใช้งานมีตัวตนจริง และเนื่องจาก Binance เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำธุรธรรมผ่านเว็บไซต์เป็นหลัก จึงอาจมีมิจฉาชีพแฮ็กข้อมูลลูกค้าเพื่อถอนเหรียญออกมาใช้ได้ ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตน การยืนยันตัวตน Binance ในประการนี้จะเป็นการยืนยันว่า บุคคลที่เข้ามาทำธุรกรรม ฝาก ซื้อ ขาย คือคุณจริง ๆ
หากถามว่า ในเมื่อถูกแฮ็กข้อมูลแล้ว มิจฉาชีพย่อมรู้รหัสผ่านทั้งหมดของเรา การยืนยันตัวตนจะมีประโยชน์อะไร ตอบได้ทันทีว่า การยืนยันตัวตนนั้น เป็นระบบที่ทาง Binance จะส่งรหัสมาทาง sms หรืออีเมล แอปเฉพาะ เป็นต้น เพื่อให้เรานำมากรอกยืนยันอีกครั้ง ซึ่งรหัสนี้ไม่ได้แจ้งในหนน้าเว็บไซต์ของไบแนนซ์ แต่จะแสดงบนมือถือส่วนตัวของเรา เป็นการยืนยันได้ว่า เป็นเราเองที่ทำการ
ยกตัวอย่าง กรณีเปลี่ยนรหัสผ่าน แม้จะเป็นเราเองที่เปลี่ยนรหัสผ่าน ยืนยันถูกต้องหมด แต่ระบบ Binance จะระงับการถอน โอนเหรียญ ไว้ก่อน 24 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่ได้ถูกมิจฉาชีพยอดฝีมือแฮ็ก
Binance ไม่ยืนยันตัวตน ได้ไหม
ไม่ยืนยันตัวตน Binance ได้ไหม? ตอบว่า ไม่ได้ เพราะจำเป็นต้องยืนยันตัวตน เนื่องจากระบบต้องการความมั่นใจว่าผู้ที่สมัครใช้งานมีตัวตนจริง ๆ ไม่ใช่บอท หรือ AI หรือมิจฉาชีพอื่น ๆ มาแอบอ้างนำชื่อคนอื่นมาโมเม โดยปกติแล้ว เมื่อเรา สมัคร Binance ครั้งแรก ระบบจะบังคับให้เรายืนยันตัวตนทันที หากไม่ยืนยันก็ไม่สามารถใช้งานได้
การยืนยันตัวตนแบ่งเป็น 2 ขั้นหลัก ๆ คือ ยืนยันตัวตนผู้ใช้งาน กับ ยืนยันตัวตนขั้นที่ 2 ซึ่งจะอธิบายในหัวข้อต่อไป
รูปแบบการยืนยันตัวตน
รูปแบบการยืนยันตัวตน Binance มีดังนี้
- ยืนยันตัวตนเพื่อสมัครใช้งาน Binance
- ยืนยันตัวตนขั้นที่ 2 เพื่อทำธุรกรรม ประกอบด้วย
2.1 ยืนยันตัวตน Binance ทางอีเมล
2.2 ยืนยันตัวตน Binance ทาง SMS หรือมือถือ
2.3 ยืนยันตัวตน Binance ด้วย Google Authenticator
วิธีสมัคร Binance พร้อมยืนยันตัวตน
ทำความเข้าใจความสำคัญของการยืนยันตัวตน Binance กันแล้ว คราวนี้มาลงวิธีสมัคร และวิธียืนยันตัวตนกันต่อ
สังเขป วิธีสมัคร Binance
เมื่อเรา สมัคร Binance ต้องยืนยันตัวตนขั้นที่ 1 โดยปริยาย ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
- เมื่อเข้าหน้าแรก Binance ให้เลือก Sign Up เพื่อสมัคร
- เลือกวิธีสมัคร Binance โดยใช้อีเมล หรือเบอร์มือถือ
- กรอกอีเมล หรือมือถือ
- เมื่อกรอกอีเมล หรือเบอร์มือถือแล้ว Binance จะให้เรากำหนดรหัสผ่าน โดยต้องมีไม่น้อยกว่า 8 ตัว ในจำนวนนี้ต้องมีอักษรใหญ่ ตัวเลข อักขระพิเศษรวมด้วยอย่างน้อย 1 ตัว
- เมื่อกำหนดรหัสผ่านแล้ว ก็จะเข้าสู่การยืนยันตัวตน ให้เลือกประเทศ ซึ่งไบแนนซ์ฉลาดถึงขั้นระบุให้เลยว่าเราอยู่ปะเทศอะไร กดเลือกไทย
- กรอกชื่อ นามสกุล เป็นภาษาอังกฤษ
- ระบุ วันเดือนปีเกิด
- กรอกข้อมูลที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน
- ถ่ายภาพบัตรปรระจำตัวประชาชน แล้วก็ถ่ายเซลฟี่ภาพตัวเอง
เมื่อเรายืนยันตัวตนขั้นที่ 1 หลังสมัคร Binance เรียบร้อยแล้ว สามารถเทรดเหรียญได้เลย แต่เพื่อความปลอดภัย ควรตั้งค่ายืนยันตัวตน ขั้นที่ 2 ตามนี้
ยืนยันตัวตนด้วย SMS
เราสามารถตั้งค่ายืนยันตัวตนขั้นที่ 2 ดังนี้
- เลือกโปรไฟล์
- เลือก Security
- เลือกตั้งค่าเบอร์โทรศัพท์
จากขั้นตอนนี้ เมื่อเราล็อกอินเข้าระบบ หรือทำธุรกรรมใด ๆ Binance จะส่งรหัสยืนยันมาอีกขั้นทาง SMS
ยืนยันตัวตนด้วยอีเมล
เราสามารถตั้งค่ายืนยันตัวตนขั้นที่ 2 ด้วยอีเมล ได้ดังนี้
- เลือกโปรไฟล์
- เลือก Security
- เลือกตั้งค่า Email
จากขั้นตอนนี้ เมื่อเราล็อกอินเข้าระบบ หรือทำธุรกรรมใด ๆ Binance จะส่งรหัสยืนยันมาอีกขั้นทางอีเมล
ยืนยันตัวตนด้วย Google Authenticator
Google Authenticator เป็นแอปพลิเคชั่นที่จะกำหนดรหัสขั้นที่ 2 ให้เรานำไปกรอกในแอปที่พ่วง ซึ่งรหัสจะเปลี่ยนตลอดเวลา เช่น เรากรอกรหัสเข้า Binance แล้ว เมื่อเปิดใช้ Google Authenticator แล้ว จำเป็นต้องนำรหัสขั้นที่ 2 มากรอกด้วย มิเช่นนั้นจะเข้าใช้งานไม่ได้ โดยรหัสขั้นที่ 2 นี้ จะอยู่กับมือถือของเรา
เราสามารถตั้งค่ายืนยันตัวตนขั้นที่ 2 ด้วย Google Authenticator ได้ดังนี้
- เลือกโปรไฟล์
- เลือก Security
- เลือกตั้งค่า Google Authenticator
- โหลดแอปฯ Google Authenticator มาติดตั้งในมือถือ
- เชื่อมต่อ Google Authenticator กับ ระบบของ Binance โดยทางไบแนนซ์จะมีคิวอาร์โค้ดให้แสกน ซึ่งวิธีเชื่อมต่อไม่ยุ่งยาก เมื่อเชื่อมต่อแล้ว เวลาเราเข้าระบบด้วยรหัสแรก ก็ต้องนำรหัสจาก Google Authenticator มากรอกด้วยอีกขั้นตอนหนึ่ง
วิธีใช้ Binance เมื่อยืนยันตัวตนแล้ว
อย่างที่กล่าวข้างต้นว่า ยืนยันตัวตน Binance มี 2 ขั้นใหญ่ ๆ จึงขอแยกอธิบายดังนี้
- ยืนยันตัวตนขั้นแรก เมื่อยืนยันแล้ว สามารถใช้งาน Binance ได้ปกติ โดยล็อกอินด้วยยูสเซอร์เนม และรหัสผ่าน แล้วเข้าเทรดได้เลย
- เมื่อยืนยันตัวตนขั้นที่ 2 แล้ว จำเป็นต้องนำรหัสจาก การยืนยันมากรอกอีกขั้น เช่น จาก SMS จากอีเมล หรือ Google Authenticator ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกกรอกรหัสจากอะไร ฉะนั้นสมัครไว้ทั้ง 3 แบบก็ดี
ปัญหายืนยันตัวตน Binance
แน่นอนว่า การยืนยันตัวตน Binance ย่อมมีปัญหาทางเทคนิคบ้าง ซึ่งส่วนมากมีดังนี้
ยืนยันตัวตน Binance ไม่ได้
ยืนยันตัวตนไม่ได้ในที่นี่ ส่วนมากเจอปัญหาในการยืนยันตัวตน Binance ไม่ได้ในขั้นแรก ซึ่งปัญหาเกิดจาก
- ถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชนไม่ชัด ภาพเบลอ วิธีแก้ปัญหา คือ ให้ถ่ายภาพในที่แสงพอเพียง ทำกลางวันจะดีที่สุด และจับกล้อง (โทรศัพท์มือถือ) ให้นิ่ง ๆ
- เซลฟี่ไม่ชัด กรณีเดียวกันกับการถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชน แนะนำดังนี้
- ถ่ายในที่แสงพอเพียง กลางวันยิ่งดี
- ด้านหลังควรเป็นสีเดียว เช่น ผนังบ้าน เป็นต้น ไม่ควรเป็นสีสันฉูดฉาด อย่างจอทีวี หรือตู้โชว์ต่าง ๆ เป็นต้น
- ถือโทรศัพท์ให้นิ่ง ๆ
- อ่านคำสั่งในการยืนยันตัวตนให้แม่น เช่น บางครั้งระบบบอกให้หันหน้าซ้าย หันหน้าขวา แม้จะเป็นคำสั่งภาษาอังกฤษ ก็ไม่ต้องห่วง เพราะระบบมีสัญลักษณ์ให้เห็นเข้าใจง่าย
ส่วนการยืนยันตัวตนขั้นที่ 2 ไม่ค่อยเกิดปัญหา เนื่อจากเราสามารถเลือกตามสะดวกได้ จะใช้จากอีเมล หรือ SMS หรือ Google Authenticator อย่างใดอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เอาตามที่สะดวก
เปลี่ยนโทรศัพท์ยืนยันตัวตน Binance ผ่าน Google Authenticator ไม่ได้
เปลี่ยนมือถือเป็นปัญหาหนักเลยสำหรับการยืนยันตัวตนขั้นที่ 2 กับ Google Authenticator เพราะถ้าเราไม่โอนข้อมูลจากเครื่องเดิมมาเครื่องใหม่จะไม่สามารถใช้ได้ ซึ่งถ้าเปลี่ยนมือถือตามปกติชนิดที่ว่า เก่าไปใหม่ ไม่ได้หายหรือเสีย ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเสียหรือหายแล้วจะใช้เครื่องใหม่นี่ไม่ได้เลย เพราะรหัสจะไปโผล่ที่เครื่องเก่า วิธีแก้ปัญหาคือ ต้องแจ้งว่าเราเปลี่ยนเครื่องกับทาง Binance ที่เมนู Service
จำเป็นต้องสมัครยืนยันตัวตน Binance ทุกวิธีไหม
การยืนยันตัวตนขั้นที่ 1 เท่านั้นที่มีความจำเป็น ส่วนขั้นที่ 2 ไม่ยืนยันก็ได้ แต่คุณจะเสี่ยงต่อการถูกมิจฉาชีพแฮ็กข้อมูลได้ และอย่างที่กล่าวมาในหัวข้อก่อนหน้านี้ หารยืนยันตัวตนขั้นที่ 2 นั้น เราสามารถเลือกได้ว่าจะใช้รหัสจากวิธีไหน ฉะนั้น การสมัครครบทั้งหมด ก็เป็นผลดีนั่นเอง
ยืนยันตัวตนแล้วใช้งานไม่สะดวก
แน่นอนว่า การยืนยันตัวตนขั้นที่ 2 อาจใช้งานไม่สะดวกบ้าง เพราะต้องนำรหัสมากรอกซ้ำอีกขั้น แต่เมื่อเราทำบ่อย ๆ ก็จะชินไปเอง ที่สำคัญที่สุด คือ มันปลอดภัย เพิ่มขั้นตอนมาอีกหน่อย แต่แลกกับความปลอดภัย ถือว่าคุ้ม
สรุป
การยืนยันตัวตน Binance มี 2 ขั้น คือ การยืนยันตัวตนตอนสมัคร และยืนยันตัวตนขั้นที่ 2 สำหรับคอนเฟิร์มในการทำธุรกรรม เช่น ถอน ฝาก โอนเหรียญ เป็นต้น ฉะนั้นจึงมีความสำคัญ บางครั้งอาจมีปัญหาในการลงทะเบียนบ้าง แต่หากทำตามแนะนำแลล้วยังไม่ผ่าน ขอให้พักไว้ก่อน แล้วค่อยทำใหม่ อย่าใจร้อน ส่วนการยืนยันขั้นที่ 2 สมัครให้ครบทั้ง 3 อย่างก็ดี เพราะอย่าลืมว่า การเทรดเหรียญคือการลงทุน คงไม่ดีแน่หากอยู่ ๆ เงินของเราหายไปโดยมิจฉาชีพ